Cryptocurrency #3 How to trade the 4 new traders. วิธีการเทรด ทั้ง 4 แบบ สำหรับมือใหม่
สวัสดีค่ะเพื่อนๆสตีมมมท ทุกคนวันนี้เรนจะบอกเรื่องการเทรดเงินดิจิตอลสำหรับมือใหม่กันค่ะโดยการเทรด ก็จะมี อยู่ 4 แบบ ไปดูกันค่ะว่า เราสนใจจะเล่นแบบไหนกัน ลองไปอ่านดูนะคะ
(´。• ᵕ •。) สไตล์การเทรดทั้ง 4 แบบ (´。• ᵕ •。
)
ถ้าเราเลือก Cryptocurrency (ต่อจากนี้จะเรียกว่า เหรียญ) พื้นฐานดี แล้วซื้อเก็บเอาไว้ ในอนาคต ราคามันก็จะต้องเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นธรรมดา ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้ เราเรียกว่า Buy and Hold คือซื้อแล้วถือไว้จนสักวันนึงมันอาจจะขึ้นไปถึง 10-100 เท่า วันนั้นเราก็ค่อยขายทำกำไร
ส่วนการเทรดนั้น เกิดขึ้นเพื่อที่จะทำกำไรให้ได้มากกว่าการซื้อแล้วถือเหรียญไว้เฉยๆนั่นเอง เพราะกว่าราคาจะขึ้นไปถึงจุดนั้น ก็ต้องมีราคาขึ้นลงบ้าง ซึ่งนักลงทุนก็ใช้จังหวะเหล่านี้แหละ ที่จะซื้อขาย เพื่อทำกำไรให้มากกว่าการถือเหรียญเอาไว้เฉยๆ
การเทรดจะแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะตามระยะเวลาในการเทรด ตั้งแต่เปิดการสั่งซื้อจนปิดการสั่งซื้อนั้นๆ
- 1. Position Trading
คือ การเทรดที่จะใช้เวลาถือเหรียญตัวนั้นๆเป็นเวลานานอาจจะเป็นเดือน หรือ เป็นปี นักเทรดที่ใช้การเทรดแบบนี้มักจะดูทั้งพื้นฐานของเหรียญ กับ กราฟสัปดาห์หรือเดือนไปด้วยกัน และไม่สนใจการเคลื่อนที่ขึ้นลงของราคาในระยะสั้น เป็นลักษณะการเทรดที่คล้ายกับการ Buy and Hold มากที่สุด
- 2. Swing Trading
เป็นการเทรดในช่วงเวลาเป็นวันหรือเป็นสัปดาห์ การเทรดลักษณะนี้จะให้ความสำคัญกับ Technical analysis มากกว่าพื้นฐานของตัวเหรียญ พร้อมกับให้ความสำคัญกับจังหวะซื้อ และ จังหวะขายด้วยเช่นกัน โดยจะเข้าซื้อเมื่อมีสัญญาณ และ ขายเมื่อถึงเป้าหมายราคา หรือ เมื่อถึงจุดที่ต้อง stoploss
เนื่องจากเป็นวิธีที่ใช้เวลาในการเทรดเป็นวัน ถึง สัปดาห์ และไม่จำเป็นต้องเฝ้าดูตลอดเวลา ทำให้การเทรดแบบนี้มีความนิยมสูงสุด
- 3.Day Trading
เป็นสไตล์การเทรดที่มีการเข้าซื้อ และ ขาย ภายในวันเดียวกัน ไม่มีการค้างออร์เดอร์ข้ามวัน แบบสองวิธีข้างต้น จะเข้าซื้อเมื่อมีสัญญาณ และจะขายเมื่อถึงจุด stoploss ถึงจุดทำกำไร หรือ เมื่อหมดเวลาเช่นเมื่อตลาดปิด หรือ ก่อนจะเข้านอน
นักลงทุนที่ใช้วิธีการ Day Trading เป็นหลักจำเป็นที่จะต้องทำเป็นงานประจำ เพราะการเทรดตั้งแต่เข้าซื้อและขายออก จะเกิดขึ้นในเวลา ไม่กี่นาทีจนถึงชั่วโมง ทำให้จำเป็นต้องเฝ้าราคาตลอดเวลา และต้องคอยระมัดระวังปัญหาที่เกิดได้รอบๆตัว เช่นอินเตอร์เนตตัด หรือ คอมเสีย เป็นต้น
- 4 .Scalp Trading
การเทรดที่ใช้เวลาน้อยที่สุด อาจจะเป็นแค่หลักวินาทีก็ได้ นักลงทุนที่ใช้วิธีนี้ จะเทรดในช่วงที่ราคาเปลี่ยนแปลง และ ทำการขายทันทีเพื่อเอากำไรเพียงเล็กน้อย มักจะเพียงแค่ 1-2 % ต่อการเทรด ซึ่งนักลงทุนที่ทำการเทรดลักษณะนี้มักจะทำการเทรดตั้งแต่ 10-100 ครั้งต่อวัน ซึ่งทำให้ต้องระวังเรื่องค่า commission ได้
การเทรดลักษณะนี้ ต้องการการตัดสินใจที่นิ่ง และ เฉียบขาด เพราะทุกอย่างเกิดได้ในชั่วเสี้ยววินาที ถ้าตัดสินใจผิด หรือ ช้าแค่นิดเดียว อาจจะขาดทุนมากกว่ากำไรที่เทรดได้มาเป็นสิบครั้งก็เกิดขึ้นได้
ยิ่งการเทรดนั้นใช้เวลาน้อยมากเท่าไหร่ จะทำให้เราหวั่นไหว และใช้อารมณ์มาประกอบได้มากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นแล้วสำหรับมือใหม่ Swing Trading และ Position Holding คือทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากทั้งไม่รบกวนเวลาทำงานประจำแล้ว ยังมีเวลาเหลืออีกมากให้เราพิจารณาแผนการเทรดของเราว่าจะขายตรงไหน หรือจะคัทลอสตรงไหน ต่างกับ Day Trade หรือ Scalping ที่ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
แต่แน่นอนว่าไม่จำเป็นที่ทุกคนจะทำได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอไป บางคนอาจจะทำทั้ง Swing Trading และ แบ่งเงินประมาณ 10-20 % ของพอร์ทมาเพื่อ Day Trading ไปพร้อมๆกันก็ได้
Take care everyone, have a great day! Thank you for reading and upvote if u like you can follow @auraiwan and Voting for me