Be gentleman, not a loser
สวัสดีครับชาว Steemit ครับ วันนี้ผมก็จะมาพูดถึงเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นปัญหาสังคมอีกแบบหนึ่งเลยหละครับ และปัญหาที่ว่ามันก็คือ "การทำร้ายร่างกาย" ครับ ที่มันเป้นปัยหาสัคนก็เพราะว่ามันมีบุคคลหลายๆคนนะครับชอบทำร้ายร่างกายคนใกล้ตัว อย่างเช่น ทำร้ายร่างกายแฟน หรือว่าแฟนเก่า เพียงเพราะแค่ "ขอคืนดีไม่ได้" ครับ
©google picture
ข่าวที่ผ่านมาในประเทศไทยนั้นมักจะมีข่าวที่ผู้ชายทำร้ายร่างกายผู้หญิงอยู่บ่อยๆ ส่วนใหญ่แล้วข่าวที่ออกนั้นจะเป็นลักษณะชู้สาว หรือไม่ก็ขอคืนดีแล้วไม่สำเร็จ ซึ่งสุดท้ายมักจะจบด้วยการทำร้ายร่างกาย บางรายอาจจะโชคร้าย ทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิต
ทำไมถึงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆหละ? ผมจึงได้ไปศึกษาข้อมูลมาเป็นผลวิจัยเมื่อสองปีที่แล้ว เป็นงานวิจัยจาก "มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล" เวลาที่ผู้ชายโมโห
57.3% ทำลายข้าวของ
68.9% จะดื่มสุรา
44.8% ทำร้ายคนรัก
42% บังคับให้มีเพศสัมพันธ์
80% เตะคอคนรัก
74.7% ใช้คำหยาบคาย
71.7% คบซ้อน
ด้วยสถิติดังกล่าวนั้นเวลาที่ผู้ชายโมโหแล้วนั้นมักจะใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ซึ่งเวลาโมโหแล้วผู้ชายมักจะขาดความยับยั้งชั่งใจ แล้วก็ทำอะไรที่มันเลวร้ายลงไป และที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าธรรมชาติของผู้ชายที่ต้องการเป็นใหญ่ เป็นผู้นำ ต้องมีผู้ตาม มันเลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่เกิดความรุนแรงกับผู้หญิง
©google picture
ต่อไปนี้คือความเห็นของผมล้วนๆนะครับ สำหรับเรื่องทำร้ายร่างกายผู้หญิหนะครับ มันจะต้องมัสักวันแหละครับที่จะต้องมีปัญหากันแล้วมีปากเสียงกัน บางทีต่างคนต่างแรงใส่ แต่ผมอยากจะให้คำนึงอยู่ข้อนึงครับ ถึงแม้ว่าจะอารมณ์ขึ้นแค่ไหนแต่จะต้องไม่ทำร้ายร่างกายใครนะครับ มันไม่คุ้มกันกับผลที่ตามมาครับ ซึ่งผมนั้นก็เป็นอย่างในผลการวิจัยนี่แหละครับ แต่ว่าผมไม่เคยทำร้ายร่างกายใคร ผมเคยง้อแฟนเก่าไม่สำเร็จ แต่ว่าผมก็ไม่ทำร้ายเขา เพราะว่ามันสิทธ์ของเขาที่จะเลือกว่าเขาจะเดินแบบไหน คุณโกธได้ เสียใจได้ แต่ก็ไม่มีสิทธ์ไป "ทำร้ายร่างกาย" ใครนะครับ
ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะครับ สวัสดีครับ
สังคมสมัยนี้ก็ยังงี้แหละครับ จะก้าวหน้าไปถึงใหนก็ตาม แต่ความเป็นสัตว์ในตัวมีอยู่ทุกคน เพียงแต่ใครจะบังคับมันไม่ให้มีอิทธิพลเหนือเราได้เท่านั้นเอง
ถูกต้องครับ สัญชาติญาณดิบมันมีกันทุกคน ต้องใช้มันให้ถูกเวลาครับ