ปริญญาสำคัญกับชีวิตจริง ๆ ของเรารึเปล่า - Education VS No education (TH/EN)

in #thai7 years ago (edited)

สวัสดีครับเพื่อน ๆ Steemit ทุกคน ผมชื่อ เก่ง ครับ ศิษย์เก่าจากรั่วมอดินแดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดินแดนอีสาน หลังจบปริญญาตรี ที่ได้ร่ำเรียนมา 4 ปี ก็ได้เดินทางมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ แหล่งรวบรวมคนไทยทั้งประเทศ มีทั้งงาน ทั้งเงิน คนดี คนเลว ปะปนกันจนบางทีแยกกันไม่ออกว่าใครเป็นใคร ที่นี่เป็นแหล่งรวมทุกภาษาทุกวัฒนธรรมของประเทศไทยอย่างแท้จริง
Hi Steemit friends, My name is Keng who has stuied at Khon Kaen University; the northeast university. After I graduated I moved to Bangkok to study master degree. Bangkok is the place that integrate everything together. It has a lot of jobs and money. You can find various good and bad persons here. Sometime you can not distinguish they are good or bad, people just wear a mask to each other.

ในขณะที่ผมเรียนอยู่มอขอมีหลายวิชาครับ ที่บางทีก็ไม่เข้าใจว่าเรียนไปทำไม บางวิชาก็ไม่สามารถเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้สักเท่าไหร่ เราต้องเสียเงินหลายบาทเพื่อเอามาเป็นทุนในการเรียนต่อปริญญา ทั้งค่าเทอม ค่าหอ ค่ากิน ค่าเดินทาง รวมๆแล้วครอบครัวส่งเงินให้ผมตั้งแต่เรียนปี 1 จนจบปี 4 ราว ๆ 500,000 บาท ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ คนบางคนเอาเงินก้อนนี้ไปตั้งตัวได้เลยทีเดียว
When I study at KKU I realized that most of the courses are not useful in real life. If you want to study in Thailand you have to spend a lot of money to pay for tuition, room, food and mamy more. I take tome to count sume money. I think I paid more than 500,000 bath for 4 years.

เราเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงิน แล้วเราได้อะไรกลับมาบ้าง? ผมคิดว่าสิ่งที่ผมได้มามีหลายอย่างครับ ในมุมมองของผมนะครับ ได้ความรู้ในสาขาที่ผมสนใจจริง ๆ ผมคิดว่ามันเอาไปต่อยอดได้ ได้เพื่อน ได้คอนเน็คชั่น ได้ประสบการณ์การเป็นนักศึกษา ฝึกความรับผิดชอบ ต่อสู้ดิ้นรนแข่งขันกับคนอื่น ๆ ซึ่งผมก็ผ่านมันมาได้ ผมคิดว่าผมประสบความสำเร็จกับการเรียนมหาวิทยาลัยพอสมควรครับ
While I studied at the university I spended a lot of money and lost 4 years.What I get back from there? In my opinion, I learned many things from there. I got large number of friends and connections. In addition, I found a new experience and more responsibity. I have to challenge with many people and learned to survive in this cazy world.

แต่กับบางคนที่ไม่เหมาะกับการเรียนล่ะ? กับบางคนที่ไม่เหมาะกับมหาวิทยาลัย แต่ยังฝืนทนอยู่ ฝืนเรียนเพราะแรงกดดันจากครอบครัว เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา บางทีไปเจอสังคมแย่ ๆ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ บางคนอาจจะไม่เหมาะกับการเรียนมหาวิทยาลัยจริง ๆ ก็ได้ บางคนเหมาะกับการไปเรียนด้วยตัวเขาเอง ไปหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง ไปเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณลองคิดดูนะครับถ้าลูกของคุณไม่เหมาะกับมหาวิทยาลัย แล้วไปลองเปิดร้าน หรือทำธุรกิจอะไรซักอย่างที่เขาชอบ หรือให้เวลาเขาไปทำงาน ค้นหาตัวเอง บางทีมันอาจจะดีกว่าเอาเงินห้าแสนไปละลายน้ำ พร้อม ๆ กับทิ้งเวลาสี่ปีไปเปล่า ๆ
Some people is not suit with the college but they still stay in that position because of the pressure from their family. That is not a jok. It mean you throw 500,000 bath and 4 years away. Someone should go outside and find their ability, what career that suit with them and learned about that job. I think 4 years that they look for a business and experience is worthwhile for them.

ขอบคุณพื้นที่ Steemit ในการแชร์เรื่องราวดี ๆ ที่มีประโยชน์ครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่กดเข้ามาอ่านและกดอัพโหวต+คอมเม้นให้ด้วยนะครับ
Thank you Steemit for great sharing area.

thank you
I am @imkittikorn

15385484_1315620095157452_3569899792934822981_o.jpg

Sort:  

เป็นอีกหนึ่งมุมมองจากวัยรุ่นที่จบการศึกษาระดับปริญญา
การประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่แค่การจบการศึกษาระดับสูง
แต่เป็นการ เลือกใช้สิ่งที่เรียนมา เอามาใช้ในชีวิตมากกว่าค่ะ

ยินดีด้วยกับความสำเร็จการศึกษา และอวยพรให้ประสบความสำเร็จ
ในการดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานนะคะ

ขอบคุณมากครับ ผมจะใช้ความรู้ไปพัฒนาสังคมของเราต่อไปครับ

อีกมุมหนึ่งในรั้วมหาลัย สู่ประสบการณ์การใช้ชีวิต หลังจบการศึกษา

ผมเองวิถีไม่ถึงรั้วมหาลัย ยินดีกับทุกๆ ท่านด้วยครับ

ขอบคุณมากเลยครับ

สวัสดีคะยินดี​ที่ได้รู้จักคะ​ สนุกและยอดเยี่ยมจริงๆคะ

สวัสดีเช่นกันครับ ขอบคุณมากครับผม

ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จ 😊 ขอให้ได้งานที่ดีและงานที่ชอบ เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานนะจ้ะ

ขอบคุณมากเลยครับผมมม