คุณลักษณะนิสัยดีๆ ที่ไม่อยากให้หายไปมากกว่านี้...
ว่าด้วยเรื่อง ความเกรงใจ ส่วนตัวคิดว่าควรจำกัดอยู่กับ “พื้นที่”
หรือเฉพาะกับ “สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง” เท่านั้นไหม?
อย่างการอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวอย่างคอนโด หรือหอพัก
จะหมายถึงเราสามารถเปิดเพลงเสียงดังขนาดไหน ดึกเท่าไหร่ก็ได้ รึเปล่า?
รถเรา ถนนก็ภาษีเรา เราจะขับรถเร็ว แรง แค่ไหนก็ได้?
ที่ดินส่วนตัวเลยจะสร้างโรงงานหรือเล้าหมูที่ส่งกลิ่น,เสียงรบกวนไป 3-4 หมู่บ้าน
นั่นเป็นสิทธิ์ที่เราทำได้อย่างเสรี ในฐานะเจ้าของพื้นที่อย่างนั้นไหม?
ผมดีใจที่คำตอบส่วนใหญ่ น่าจะอยู่ในทิศทางเดียวกันคือ ไม่เห็นด้วย
คนเราควรมีความเกรงอกเกรงใจ คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้าง 😊
แต่ที่ต้องหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็น เพราะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ที่กำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว จนน่าเป็นห่วง
เมื่อสิ่งที่เรียกว่า ความเกรงใจ
ของผู้คนในสังคม กำลัง เหือดแห้ง และ ลดหายไป ในระดับที่น่าตกใจมาก จากที่เห็นมา
อย่างจุดที่ผมนั่งอยู่กลางร้านอาหาร/กาแฟ ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ นี่คือสิ่งที่ผมพบเจอระหว่างที่นั่งอยู่ตรงนี้
• ชายวัยทำงานที่โทรฯหาปลายสายนานหลายนาที โดยที่เปิด "SpeakerPhone" สนทนาทั้ง 2 ครั้ง! ซึ่งแม้ไม่อยากฟังไม่อยากทราบ แต่ทุกคนในร้าน จำต้องถูกบังคับให้ฟังในสิ่งที่พวกเค้าพูด ( คุยโปรเจคเรื่องงานก่อสร้าง อีกสายโทรไปตำหนิผู้รับเหมาที่ส่งงานช้า,แถมงานที่ส่งมาก็ไม่ได้เรื่อง )
• ครอบครัวที่พาเด็กมาแล้วปล่อยให้วิ่งเล่น ส่งเสียงดังในร้าน ( จบด้วยเสียงแหกปากร้องไห้! เพราะวิ่งชนประตูกระจกเสียงดังมาก 😓 )
• หนุ่มสาวที่สวีตกันมาตั้งแต่หน้าประตู ตัวชิดนั่งเบียดกันเหมือนจะสิง เอ๊ย! เหมือนหลุดมาจากซีรี่ย์เกาหลี และโลกนี้มีแค่เราสอง ( เลือกนั่งโต๊ะที่อยู่กลางร้านทั้งๆที่มีมุมที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ )
• เด็กวัยเรียน 2-3 กลุ่ม ที่วางกระเป๋าจองโต๊ะทำเลดีในร้านไปเกือบหมด ทั้งโต๊ะสั่งน้ำ 1 แก้ว ส่วนเพื่อนที่เหลือแค่มาส่งให้กำลังใจ ใช้ wifi ร้าน นั่งเล่น Rov เป็นเพื่อน จนกว่าพ่อแม่ของแต่ละคนจะมา
• ส่วนสุดท้าย ให้ภาพบรรยายแทนเลยละกัน... 😔
( ยึดมุมเค้าเตอร์บาร์ทั้งแถบ แถมเปิดรูปชวนแหวะกลางร้านชา/อาหาร )
• ฯลฯ
ครับ ทั้งหมดที่เห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ผมใช้เวลาไม่นานเลยที่จะดื่มด่ำกับชากาแฟและขนมที่สั่งมา โดยยังไม่ทันที่จะหมดแก้ว แต่ผมเห็น ความเห็นแก่ตัว ที่มาในรูปแบบของการ ไม่มีความเกรงใจใดๆเลย ผ่านเข้ามาเกือบนับสิบเรื่อง ( บางเรื่องผมเลือกที่จะไม่เล่า )
เยอะไปรึเปล่า? กับระยะเวลาเพียงแค่นี้
เลยเกิดคำถามขึ้นในใจ...
ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับ ความเกรงใจ ของคนในปัจจุบัน
3 ปี 5 ปี ต่อจากนี้ คิดว่ามันจะดีขึ้นกว่านี้ไหม?
หรือจะเลวร้าย แย่หนักลงกว่าเดิม
ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญ ไม่ยอมปลูกฝัง สะกิดเตือนกันตั้งแต่ตอนนี้
อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ และตอนนั้นคงสายเกินไปที่จะแก้
เราคงไม่อยากยอมแพ้ และปล่อยให้เป็นไป
ลึกๆในใจเราคงยังแอบหวัง
อยากเห็นสังคมที่ การมีจิตสำนึกสาธารณะ
เป็น "ค่านิยมใหม่" ที่แพร่หลายในบ้านเราได้ในซักหน 😊
เป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่กำลังปลูกฝังค่านิยมดีๆให้กับตัวเองและลูกหลาน อย่าลืมสอน และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขาในเรื่องนี้เสมอ
ความเกรงใจ และ จิตสาธารณะ
โพสต์ที่ดีมากและน่าประทับใจ
ขอขอบคุณ
ขอบคุณมากครับ 😊
เขียนได้น่าสนใจมากครับ ผมเองประสบมากับตัวเยอะมาก เจอทุกวันจนรู้สึกน้อยใจเลยเราทำอะไรมีแต่เกร่งใจคนอื่นเขา แต่ทำไมรอบๆข้างถึงไม่เกร่งใจเราบ้างเลย 😩
Posted using Partiko Android
อดทนและรักษาความเกรงใจไว้ต่อไปแม้ไม่มีใครเห็น
หรือดูเหมือนถูกเอาเปรียบ ที่ทำอยู่ฝ่ายเดียว
แต่เชื่อเถอะครับ ว่ามีคนสังเกตเห็นอยู่ อย่างน้อยก็ตัวเราเอง
ที่สำคัญ ลูกๆเด็กๆที่อยู่รอบตัวเรา เค้าแอบสังเกตพฤติกรรมเราอยู่
ดูว่าเราตัดสินใจและวางแบบอย่างไว้แบบไหน
เค้าเตรียมที่จะเป็นวัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ แบบที่เราเป็นในปัจจุบันครับ 😊
เป็นกำลังใจให้ทำต่อไป และขอบคุณมากสำหรับคำชมที่มอบให้บทความนี้
จะพยายามเขียนให้ดีขึ้นในบทความต่อๆไปครับ 😊
@kumluangdee
คนพวกนี้มีเยอะค่ะ ไม่ชอบเหมือนกัน