มะระกับความขมที่ดีต่อสุขภาพ🥒
สวัสดีค่ะพี่ๆชาวSTEEMรักทุกคนคะ**
สองสามวันมานี้ที่เกาะพะงันอากาศแปรปรวนมากๆเลยค่ะเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว อย่างเมื่อวานอากาศร้อนมากๆแทบจะไม่กล้าออกไปไหนเลยคะ ขนาดอยู่ที่บ้านเมย์ต้องอาบน้ำเกือบทุก1ชั่วโมงเหมือนจะนอนในห้องน้ำกันเลยคะ แต่พอมาวันนี้ดันมีฝนตกลงมากสะอย่างนั้นคะ ตอนแรกเมย์คิดว่าจะจากไปส่งพี่บี @mayyy ไปทำงานเสร็จจะรีบกลับมาซักผ้าที่บ้าน แต่พอเมย์กำลังจะขับรถกลับบ้านฝนดันตกลงมาแรงมากเลยคะ เมย์เลยพักเรื่องการซักผ้าเอาไว้วันหลัง รอวันที่แดดดีไม่มีฝนมากวนใจอย่างนี้คะ ฝนตกหนักและนานมากคะท้องก็เริ่มหิวจะขับรถออกไปซื้อก็ไม่ได้ แต่ยังดีที่มีร้านข้าวแกงอยู่ใกล้ๆกับที่พี่บีทำงาน เลยกางร่มเดินไปซื้อข้าวมาทาน แกงร้านนี้มีให้เลือกแค่ไม่กี่อย่างคะเพราะเมย์ไปซื้อตอนเช้าเจ้าของร้านยังแกงไม่เสร็จ เมย์เลยซื้อมาแค่น้ำพริกมะม่วง+ผักสด กับต้มมะระหมูสับ มาเพราะเป็นของโปรดพี่บีคะ
หน้าตาของต้มมะระหมูสับดูน่าทานมากเลยใช่ไหมคะ แต่บอกตามตรงเลยนะคะว่ามีไม่กล้าทาน เมื่อก่อนเมย์เคซื้อเมนูนี้มาลองทานครั่งนึง รสชาติแย่มากค่ะทั้งเนื้อมะระหมูสับและน้ำซุปมีรสชาติขมมาก ฉันไม่สามารถทานเข้าไปได้จริงๆค่ะขนาดของแม่ของแฟนเมย์เป็นคนที่ชอบทานต้มมะระมาก ยังบอกเลยว่ารสชาติของมันขมมากๆ แต่สำหรับต้มมะระถ้วยนี้พอพี่บีลองทานเนื้อมะระเข้าไปแล้วกลับบอกว่าไม่มีความขมของมะระอยู่เลย เมย์ไม่เชื่อหรอกค่ะมะระที่ไหนจะไม่ขมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว บีบีก็บอกให้เมย์ลองชิมอยูนั้นแหลาะคะ มีอะไรลองชิมน้ำซุปเข้าไปมันไม่ขมจริงๆคะ เมย์เปลี่ยนมาเป็นชิมเนื้อมะระดูบ้าง
ถ้าถามว่าขมไหมก็ขมนะคะแต่น้อยมากๆ ลองชิมไปชิมมาจนข้าวหมดจานเลยละคะ กับข้าวร้านนี้อร่อยมากคะ
แล้วที่โบราณว่าไว้ หวานเป็นลม ขมเป็นยาคงจะใช้ไม่ได้กับต้นมะระถ้วยนี้สิคะ555+ แต่มีใครรู้บ้างไหมคะทำไมมะระถึงต้องขม ก็เพราะว่าในเนื้อมะระมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าMomodicine ซึ่งเจ้าสารตัััวนี่่่นี้แหละค่ะที่มีผลทำให้มันมีรสชาติขมขึ้นมา (สารชนิดนี้มีจำให้ขึ้นใจเลยค่ะเพราะตอนที่เรียนคุณครูได้ออกข้อสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่เมย์ดันตอบผิด ถูกตีจนมือแดงไปหมดเลยค่ะกลับมาเข้าเรื่องกันต่อนะคะ)เจ้าสารชนิดนี้นอกจากจะทำให้มะระมีรสชาติขมแล้ว มันก็ยังมีสรรพคุณที่จะช่วยในการกระตุ้นความรู้สึกอยากทานอาหารเพิ่มขึ้นและมันยังช่วยให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานดีขึ้นด้วยค่ะ นอกจากนี้มะระยังมีสรรพคุณดีๆที่สามารถรักษาโรคได้อีกหลายอย่างเลยคะ มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามะระจะสามารถช่วยรักษาโรคไหนในร่างกายของเราได้บ้าง
- ช่วยทำลาย ป้องกัน ยับยั้ง การก่อตัวของเซลล์มะเร็งต่างๆและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
- ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงและช่วยเสริมสร้างแคลเซียม
- ช่วยรักษาและบำบัดโรคเบาหวาน ทำให้น้ำตาลในเส้นเลือดลดลง
- ช่วยให้เจริญอาหาร และระบบการทำงานของน้ำย่อยดีขึ้น
- ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และช่วยฟอกเลือด
- ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อและเป็นยาระบาย
*ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
*ช่วยแก้ท่อน้ำดีอักเสบ ด้วยการใช้ใบนำมาคั้นเอาแต่น้ำดื่มเพื่อแก้อาการ
*ผลมะระใช้เป็นยาทาภายนอก ช่วยลดอาการระคายเคือง ผิวหนังแห้ง และผิวหนังอักเสบ
เมย์ได้เคล็ดลับดีๆอย่างการทำอย่างไรไม่ให้มะระมีรสชาติขมจากพี่บีด้วยคะมาดูกันดีกว่าคะว่าต้องทำยังไงถึงจะได้ทานมะระแบบไม่ขมกัน - 1ก่อนอื่นต้องเลือกซื้อมะระเลยคะ โดยจะต้องเลือกลูกที่สีของเปลือกมะระะต้องเป็นสีเขียวอ่อนสีนวลๆ แล้วก็ตรงลอยหยักนูนๆให้เลือกที่ลูกมีนูนใหญ่ๆจะทำให้มะระไม่ขมมากค่ะ
- 2 การปอกเปลือก ก่อนอื่นต้องนำมะระมาผ่าเป็นท่อนแล้วควักไส้ออกขูดตรงขาวๆออกให้หมดด้วยค่ะ ตรงนั้นจะทำให้มะระขมเช่นกันคะ
- 3 จากนั้นก็เอามะระไปแช่น้ำเกลือซัก10-15นาทีหรือจะนำเกลือมาทาที่ตัวมะระเลยก็ได้คะ ทาทั้งด้านนอกและด้านในให้มือเปียกน้ำนิดหน่อยเกลือจะได้จับกับผิวมะระได้ง่ายขึ้นคะ
- 4 สำหรับการต้มมะระ ให้ต้มมะระก่อนใส่หมูสับเข้าไปใช้เวลาแค่2-3นาทีค่อยใส่หมูเข้าไปคะ
เพี่ยงเท่านี้ก็ได้ทานมะระแบบที่รสชาติทานง่ายขึ้นไม่ได้มีรสขมปี๊อีกต่อไปแล้วคะ และทั้งหมดนี้ก็เป็นคุณสมบัติของมะระที่แม้จะมีรสชาติที่ขมปลายลิ้นแต่ก็สามารถทำให้ความขมนั้นลดลงได้ และคุณประโยชน์มหาศาลกับผู้ที่รับประทาน ทั้งในด้านการปรับสมดุลของร่างกาย การปรับและเสริมภูมิต้านทานให้กับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูร่างกาย รวมถึงการช่วยลดน้ำหนักได้จากกระบวนการยับยั้งการดูดซึมไขมันของร่างกาย รู้อย่างนี้แล้วจะไม่ลองนำมะระเป็นเมนูประจำของครอบครัวของพี่ๆชาวSTEEMกับสักนิดหรอคะ
ทั้งหิวทั้งได้ความรู้ด้วยค่ะ
ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ