ขับรถชนเสา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน......( รูปที่ใช้ด้านบนเป็นรูปตอนขับรถกลับบ้าน ที่จังหวัดตรัง ส่วนรูปอุบัติเหตุวันนี้ไม่ได้ถ่ายเลย)
วันนี้ ก็มีเรื่องเราที่น่าตกใจมาเล่าเพื่อนๆกันอีกค่ะ ก็ไม่อยากจะ เขียนสักเท่าไรแต่ก็ต้องเขียนค่ะเพราะไม่ได้ ทำอะไรเลยและไม่มีเรื่องราวอื่นมาแทรกเลยวันนี้นอกจากเรื่องนี้เมื่อคืนก็นอนค้างคืนที่ร้านอาหาร
เอาล่ะค่ะเข้าเรื่องกันเลยวันนี้ตื่นเช้ามา สวัสดีฉันเองก็เดินไปซักผ้าเปิดน้ำใส่แทงค์น้ำเก็บไว้ จากนั้นก็ สั่งกาแฟจากร้านสะดวกซื้อมาทานกับสามี และน้องสาวก็นั่งคุยกัน นานพอสมควรจนได้เวลาทำงานของน้องสาวคือเปิดร้านเล็บที่บิ๊กซีเธอได้นัดลูกค้าไว้ตอน 10:00 น ตอนนั้นที่นั่งคุยกับฉัน เวลาประมาณ 9:30 นาทีคงจะได้ เธอก็รีบมาก
พอรู้ว่าเวลา 09:00 น กว่าแล้วรีบวิ่งไปแต่งตัว และบอกให้ฉันไปส่งเธอหน่อยเพราะเธอมีลูกค้าเหตุผลก็เพราะว่าตอนนั้นฝนตกแรงมาก ฉันก็ตอบว่าได้เธอไปแต่งตัว ฉันเห็นว่าลูกพูดไว้เมื่อวานว่าพรุ่งนี้จะออกไปตลาดก็เลยออก เดินไปตามลูกที่ห้องเพื่อให้ลูกไปส่งคุณอาของเขา ลูกก็ไม่ได้ขัดขืนอย่างไร ก็แต่งตัวแล้วออกไปส่งของเขาเลยจากนั้นไม่นานนักเวลาผ่านไปประมาณ 10 กว่านาทีลูกสาวก็โทรมาด้วยเสียงซึ่งไม่ค่อยเป็นภาษาว่าหนูขับรถชนเสาไฟฟ้า ที่ในบิ๊กซี ฉันด้วยความที่ตกใจแต่ก็ตั้งสติได้ก็เลยถามลูกว่าหนูเป็นอะไรมากไหมลูกสาวคนโตน้องออมสินเธอก็ตอบว่าไม่เป็นอะไรมากนะกระจกรถข้างหน้าแตกและ ล้อบิดเบี้ยวฝากระโปรงบุบอะไรประมาณนี้ ก็ด้วยความที่รีบ บวกความตกใจกับอาการของลูกที่บอกว่าไม่เป็นอะไรในใจไม่เชื่อเลยว่า อาการรถขนาดนั้นลูกจะไม่เป็นอะไรเลย ยังนึกว่าลูกคงกลัวไม่กล้าบอกมากกว่า ที่บ้านก็มีแต่จักรยานยนต์ อยู่ 1 คันและรถจักรยาน อีก 1 คันซึ่งตอนนั้นฝนตกแรงมากและมีฉันและสามีและลูกสาวคนเล็กซึ่งไม่มีใครอยู่บ้านก็ต้องหอบลูกสาวคนเล็กไปด้วยทั้งที่ฝนตกแรงมีเสื้อฝนแค่ตัวเดียวและซ่อมอีก 1 คัน ฉันเตรียมตัวอย่างดีขึ้นรถเลยประตูก็ไม่ได้ปิดสามีว่ามีสติหน่อยบ้านก็ต้องลบนะถึงรีบอย่างไรก็ตามแล้วให้ฉันหยิบโทรศัพท์ไปด้วยสามีบอกฉันก็หยิบไปค่ะแต่หยิบเครื่องที่ใช้ไม่ได้ไม่มีสัญญาณโทรออกไม่ได้อะไรประมาณนี้คือเครื่องของฉันส่วนมากฉันจะใช้แต่อินเทอร์เน็ตที่บ้านเป็นส่วนใหญ่พอออกนอกบ้านก็ใช้ไม่ได้อะไรประมาณนี้จากนั้นสามีก็ย้ำอีกว่า ให้เอาถุงใส่โทรศัพท์ไปด้วยเพราะฝนมันตกฉันก็ได้กระเป๋าแบบกันน้ำของลูกค้าที่ลืมไว้ตั้งอยู่หน้าร้าน แขวนไว้ที่ตาปูหน้าร้านเผื่อเจ้าของมาจะได้เอาฉันก็ฟ้าอันนั้นแหละใส่ไป ก็ขับรถไปสามีใส่เสื้อกันฝนส่วนลูกสาวคนเล็ก ฉันให้นั่งตรงกลางไปเพราะเธอ จะไม่ต้องเปียกฝนเยอะคิดอย่างนั้น ขับรถไปสักระยะรีบก็รีบแต่ก็ขับเร็วไม่ได้เพราะฝนมันกระหน่ำตกลงมาเหลือเกิน สามีฉันตาจ้องดูเข็มใหม่ น้ำมันทั้งๆที่ไม่ค่อยเห็นหรอกค่ะเพราะด้วยฝนกระหน่ำตกใส่มันก็เลือนลาง เลยต้องจอดแล้วเอามือลูบหน้าปัดว่ามีน้ำมัน เยอะไหมสรุปน้ำมันก็ใกล้หมดดันลืมเอากระเป๋าตังค์มาทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูกไม่มีใครมีเงินเลย อะไรจะขนาดนั้นแต่ก็ขอเสี่ยงขับไปให้ถึงลูกสาวคนโตก่อน ถ้ารถน้ำมันก็ไม่เป็นไรหรอก รถน่ะ
ในที่สุดก็ถึง บิ๊กซีสภาพรถบี้บี้ตามสภาพที่ชนค่ะ น้องออมสินหัวโขกกับพวงมาลัยและหัวเข่าชนกับด้านหน้าก็เก็บอยู่ค่ะส่วนน้องสาวของสามีก็เช่นกัน กระจกหน้ารถแตก เจ็บหัวไหล่ซ้ายเจ็บหัวและหัวเข่าเช่นกันสภาพในรถ มีอะไรบ้างส่วนหลุดหลุดหักไปด้วยความที่ลำตัวของลูกสาวและอา กระแทกด้วยความแรงของการชนส่วนลูกสาวคนกลาง หัวเข่าไปกระทบ กับเบาะด้านหน้าเพราะเธอนั่งอยู่ในแคปด้านหลังไม่เจ็บเท่าไหร่
เมื่อดูอาการลูกเรียบร้อยก็มีพนักงานหน่วยความปลอดภัยของบิ๊กซีเข้ามา เจรจาค่าเสียหาย ที่ชนเสาไฟ ทุกอย่างราบรื่นค่ะคุยกันแบบเข้าใจเรื่องไม่ต้องเป็นตำรวจ แต่ไม่นานตำรวจก็ถึงเรา เพราะทางบิ๊กซีต้องการบันทึก เหตุการณ์ในครั้งนี้
ฉันและครอบครัว เสียค่าใช้จ่ายค่าเสาไฟและค่าซ่อมรถและรักษาพยาบาลเองทั้งหมด สรุปๆแบบง่ายๆ ไม่มีอะไร ที่จะต้อง พูดให้เยอะไปกว่านี้ค่ะ
เมื่อเสร็จ จากการเจรจา ก็ขับรถพาลูกมาหาหมอเสร็จเรียบร้อยก็ไปต่อที่ อู่ ให้ทางอู่ประเมินราคาการซ่อมทั้งหมด
ลืมบอกไปถ้ารถไม่มีประกัน เหตุก็เพราะว่าฉันและสามีเคยปรึกษากันว่าเราจะระมัดระวังให้มากที่สุดที่ไหนได้ไม่ได้ขับคนเดียวค่ะอันนี้คือข้อผิดพลาดสำหรับฉันและสามีเพราะลูกขับด้วยถึงลูกแม้จะมีใบขับขี่ก็ตามมันพลาดกันได้เสมอเสร็จเรื่องการซ่อมรถทำประกันต่อ ตอนนี้ก็เสร็จเรื่องเสร็จแล้วเรียบร้อยแล้วกลับบ้านมานั่งจะ กินข้าวที่แวะซื้อตอนกลับ คิดว่าจะไม่ต้องออกไปตลาดอีก มานั่งมองกับข้าวทานไม่ลงค่ะมันอิ่มบอกไม่ถูกความหิวมันหายไปเลย
วันนี้ก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านี้ค่ะ ต้องขอโทษเพื่อนๆด้วยที่เขียนเรื่องอุบัติเหตุ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้อง รักษาตามเหตุตามปัจจัยค่ะ
สวัสดีค่ะ