You are viewing a single comment's thread from:
RE: เล่นละครวิทยุ/พากย์หนัง 2 ความต่างของสองศาสตร์
ใช้จินตนาการสูงเหมือนกันนะครับนี่ ต้องเอาตัวหนังสือมาสร้างเป็นภาพในหัวก่อน แล้วค่อยแสดงออกมาทางน้ำเสียง ^^
ใช้จินตนาการสูงเหมือนกันนะครับนี่ ต้องเอาตัวหนังสือมาสร้างเป็นภาพในหัวก่อน แล้วค่อยแสดงออกมาทางน้ำเสียง ^^
ใช่เลยค่ะ บทพากย์กับตัวผู้พากย์ต้องมีจินตนาการร่วมกัน เอื้อซึ่งกันและกัน ถึงจะไปด้วยกันได้แบบเนียน ๆ ให้ผู้ชมและผู้ฟังเพลิดเพลินไปตลอดการรับชมรับฟังค่ะ ^^
ลองนึกสภาพ ถ้าคนพากย์ตีบทไม่แตก ก็จะเหมือนนักเรียนที่ยืนท่องตำราอยู่หน้ากระดานดำใช่ใหมครับ ^^
ใช่เลยค่ะ @nikornkulatnam เหมือนอ่าน ๆ ไปให้มันจบแล้วจะไม่โดนครูตี 😜
แบบนั้นผู้ฟังหลับก่อนแน่ๆ ครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
😁😁😁😁😁 เมื่อก่อนเคยมีแฟนละครเขียนจดหมายมาบอกว่าด๋าเสียงแก่ด้วยค่ะ จำได้ไม่ลืมเลย เขาบอกว่านางเอกเสียงเพราะ นางรองเสียงแก่ ตอนนั้นคนเล่นละครเป็นนางเอกอายุเกือบ60 แล้ว ในขณะที่ด๋าเล่นเป็นนางรองตอนนั้นอายุยี่สิบกว่าเอง เสียเซลฟ์ไปเลยค่ะคุณนิกร 😅
เรียก ก๊ง ก็ได้ครับคุณด๋า ^^ น้อยใจแย่เลยนะครับเนี่ย ถ้ามีคนว่าเราเสียงแก่ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ค่ะคุณก๊ง แต่ก็เข้าใจนะคะเพราะคนฟังละครวิทยุเขาใช้จินตนาการล้วน ๆ เลย คุณน้านางเอกก็ดัดเสียงอ่อนเสียงหวานจนแฟนละครนึกภาพเห็นนางเอกสาวสวยหวาน ในขณะที่เราใช้เสียงธรรมชาติ โดนคอมเมนต์ซะเหี่ยวเลย 😅😅😅
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พอเข้าใจเหมือนกันครับ ^^ เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นนักจัดรายการวิทยุ ถ้ามีผู้ฟังทักมาทายอายุจากน้ำเสียงนี่ ห่อเหี่ยวเหมือนกันครับ อิอิอิอิ